การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเปอร์เซ็นต์ไขมันร่างกายกับสุขสมรรถนะของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเปอร์เซ็นต์ไขมันร่างกายกับสุขสมรรถนะของนักเรียนชายและหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
2. เพื่อพยากรณ์เปอร์เซ็นต์ไขมันของนักเรียนชายและหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นด้วยการวัดไขมันใต้ผิวหนัง 6 จุดและวัดส่วนรอบร่างกาย 6 แห่ง
3.เพื่อเปรียบเทียบสุขสมรรถนะของนักเรียนชายและหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันแตกต่างกัน
สมมติฐานของการวิจัย
1. เปอร์เซ็นไขมันร่างกาย มีความสัมพันธ์กับ สุขสมรรถนะของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
2. นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีเปอร์เซ็นไขมันต่ำ และปกติมีสุขสมรรถนะดีกว่านักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีเปอร์เซ็นไขมันสูงกว่าปกติ
ขอบเขตการวิจัย
กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีอายุ 13-15 เขตกรุงเทพมหานครและ 12 เขตการศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา จำนวน 800 คนที่สุ่มมาจากประชากรจำนวน 1,549,810 คน
แนวคิด ทฤษฎี
1. การพัฒนาการของเด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 13 – 15 ปี
2. การศึกษาเกี่ยวกับไขมันในร่างกาย
3. ปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดโรคอ้วน และผลความอ้วนที่มีต่อสุขภาพ
ทางกาย จิตใจอารมณ์และสังคม
4. วิธีกำหนดหาส่วนประกอบของร่างกาย
5. เทคนิคการวัดความหนาของไขมันใต้ผิวหนัง การวัดส่วนรอบวง
ของร่างกาย
1. การพัฒนาการของเด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 13 – 15 ปี
2. การศึกษาเกี่ยวกับไขมันในร่างกาย
3. ปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดโรคอ้วน และผลความอ้วนที่มีต่อสุขภาพ
ทางกาย จิตใจอารมณ์และสังคม
4. วิธีกำหนดหาส่วนประกอบของร่างกาย
5. เทคนิคการวัดความหนาของไขมันใต้ผิวหนัง การวัดส่วนรอบวง
ของร่างกาย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1. เครื่องชั่งน้ำหนักใต้น้ำเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก
ละเอียด 1000 ส่วน ใน 1 ก.ก.
2. ถังเหล็กทรงสี่เหลี่ยมบุด้วยพลาสติกทรงสี่
เหลี่ยม สูง 1.30 เมตร กว้าง 1.50 เมตร
ยาว 0.90 เมตรใช้เป็นถังบรรจุน้ำเพื่อการชั่งน้ำหนักใต้น้ำ
3. ปรอทวัดอุณหภูมิของน้ำขณะที่ทำการชั่งใต้น้ำ
4. เลนจ์ คาลิเปอร์ วัดไขมันใต้ผิวหนังของที่มีความกด
10 กรัมต่อตารางมิลลิเมตร
5. เครื่องวัดความจุปอดชนิดเปียกเพื่อหาอากาศที่ตกค้างภายใน
ร่างกาย ขณะที่ชั่งน้ำหนักใต้น้ำ
6. แบบบันทึกข้อมูลผู้รับการทดสอบ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้
ทดสอบเช่น การออกกำลังกาย ชนิดของกีฬาที่ออกกำลังกายเป็น ประจำ ความบ่อยในการออกกำลังกาย การเดินทางมายังสถานศึกษา ระยะทางจากบ้านถึงสถานศึกษา และอีกส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลทางด้านการทดสอบ อันได้แก่ ชีพจรขณะพัก ความดันโลหิต น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ วันเดือนปีที่ทำการทดสอบ น้ำหนักที่ชั่งได้ทั้งในน้ำและบนบก ไขมันที่วัดได้ใต้ผิวหนัง ส่วนรอบร่างกาย ความจุปอด อากาศที่ค้างอยู่ในร่างกายหลังเป่าออกเต็มทีจากเครื่องเป่าปอด
7. เครื่องชั่งน้ำหนักในอากาศที่สามารถบอกน้ำหนักละเอียดได้ถึง
1/1000
8. เครื่องวัดส่วนสูงยี่ห้อ Detecto
9. เครื่องมือวัดรอบของร่างกาย ชนิด
เทป (Gulick tape)
10. สำลี
11. แอลกฮอล์ 70%
12. สีเมจิก
13. นาฬิกาจับเวลา
14. เครื่องวัดความดันโลหิตแบบปรอท
15. สนามกรีฑาขนาด 400 เมตร
16. เบาะยิมนาสติก 10 เบาะ
17. กระดาษกาว
18. กล่องก้มงอตัว มีสเกลเป็นเซนติเมตร
19. หูฟัง (Stethoscope)
1. เครื่องชั่งน้ำหนักใต้น้ำเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก
ละเอียด 1000 ส่วน ใน 1 ก.ก.
2. ถังเหล็กทรงสี่เหลี่ยมบุด้วยพลาสติกทรงสี่
เหลี่ยม สูง 1.30 เมตร กว้าง 1.50 เมตร
ยาว 0.90 เมตรใช้เป็นถังบรรจุน้ำเพื่อการชั่งน้ำหนักใต้น้ำ
3. ปรอทวัดอุณหภูมิของน้ำขณะที่ทำการชั่งใต้น้ำ
4. เลนจ์ คาลิเปอร์ วัดไขมันใต้ผิวหนังของที่มีความกด
10 กรัมต่อตารางมิลลิเมตร
5. เครื่องวัดความจุปอดชนิดเปียกเพื่อหาอากาศที่ตกค้างภายใน
ร่างกาย ขณะที่ชั่งน้ำหนักใต้น้ำ
6. แบบบันทึกข้อมูลผู้รับการทดสอบ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้
ทดสอบเช่น การออกกำลังกาย ชนิดของกีฬาที่ออกกำลังกายเป็น ประจำ ความบ่อยในการออกกำลังกาย การเดินทางมายังสถานศึกษา ระยะทางจากบ้านถึงสถานศึกษา และอีกส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลทางด้านการทดสอบ อันได้แก่ ชีพจรขณะพัก ความดันโลหิต น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ วันเดือนปีที่ทำการทดสอบ น้ำหนักที่ชั่งได้ทั้งในน้ำและบนบก ไขมันที่วัดได้ใต้ผิวหนัง ส่วนรอบร่างกาย ความจุปอด อากาศที่ค้างอยู่ในร่างกายหลังเป่าออกเต็มทีจากเครื่องเป่าปอด
7. เครื่องชั่งน้ำหนักในอากาศที่สามารถบอกน้ำหนักละเอียดได้ถึง
1/1000
8. เครื่องวัดส่วนสูงยี่ห้อ Detecto
![]() |
Gulick tape |
เทป (Gulick tape)
10. สำลี
11. แอลกฮอล์ 70%
12. สีเมจิก
13. นาฬิกาจับเวลา
14. เครื่องวัดความดันโลหิตแบบปรอท
15. สนามกรีฑาขนาด 400 เมตร
16. เบาะยิมนาสติก 10 เบาะ
17. กระดาษกาว
18. กล่องก้มงอตัว มีสเกลเป็นเซนติเมตร
![]() |
หูฟัง (Stethoscope) |
การเก็บรวบรวมข้อมูล
ก่อนทำการทดสอบวัดไขมันใต้ผิวหนังผู้วิจัยได้หาความเชื่อมั่น โดยการฝึกวัดไขมันใต้ผิวหนังนิสิตปริญญาตรี
วิชาเอกพลศึกษา
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
จำนวน 118 คน
วิชาเอกพลศึกษา
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
จำนวน 118 คน
ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลตามลำดับขั้นตอนต่อไปนี้
1. ผู้รับการทดสอบแต่งกายที่เหมาะสมพร้อมที่จะทดสอบเพื่อจะวัด
ไขมันใต้ผิวหนัง
2. ให้ผู้ทดสอบนอนพักตามสบายบนเบาะยิมนาสติกเป็นเวลา
10 นาที
3. หลังพัก จับชีพจรขณะพัก 1 นาที จดบันทึกไว้
4. วัดความดันโลหิตขณะพัก จดบันทึกไว้
5. ผู้รับการทดสอบชั่งน้ำหนัก และวัดส่วนสูง
6. ผู้ช่วยวิจัยวัดส่วนรอบของร่างกายของผู้รับการทดสอบ
7. เป่าเครื่องวัดความจุปอด เพื่อหาอากาศตกค้าง
8. ผู้ช่วยวิจัยจะนำ ผู้ทดสอบ อบอุ่นร่างกายอวัยวะส่วนต่างๆของร่าง
กายเพื่อพร้อมจะทดสอบเป็นเวลา 10 นาที
9. ผู้ช่วยผู้วิจัยสาธิตวิธีการทดสอบลุกนั่งและให้ผู้ทดสอบปฏิบัติ
10. ผู้ช่วยผู้วิจัยสาธิตวิธีการทดสอบก้มงอตัวและให้ผู้ทดสอบปฏิบัติ
11. ผู้รับการทดสอบใส่ชุดว่ายน้ำชั่งบนเครื่องชั่ง และบันทึกน้ำหนักไว้
12. วิ่ง-เดิน 1.5 ไมล์ (2400 เมตร) และบันทึกเวลา
แบบทดสอบสุขสมรรถนะ ใช้แบบทอสอบวัดสุขสมรรถนะ (Health Related Fitness Test) ของสมาคมสุขศึกษาพลศึกษานันทนาการและการเต้นรำแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบไปด้วยการวัดด้านต่างๆ 4 รายการดังนี้
2.1 วัดความหนาของไขมันใต้ผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อแขน
ท่อนบนด้านล่าง
2.2 วัดความหนาของไขมันใต้ผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อใต้
สะบักหลัง
3. ลุก-นั่ง 1 นาที (Modified sit - up)
4. นั่งงอตัวไปข้างหน้า (Sit and reach)
1. ผู้รับการทดสอบแต่งกายที่เหมาะสมพร้อมที่จะทดสอบเพื่อจะวัด
ไขมันใต้ผิวหนัง
2. ให้ผู้ทดสอบนอนพักตามสบายบนเบาะยิมนาสติกเป็นเวลา
10 นาที
3. หลังพัก จับชีพจรขณะพัก 1 นาที จดบันทึกไว้
4. วัดความดันโลหิตขณะพัก จดบันทึกไว้
5. ผู้รับการทดสอบชั่งน้ำหนัก และวัดส่วนสูง
6. ผู้ช่วยวิจัยวัดส่วนรอบของร่างกายของผู้รับการทดสอบ
7. เป่าเครื่องวัดความจุปอด เพื่อหาอากาศตกค้าง
8. ผู้ช่วยวิจัยจะนำ ผู้ทดสอบ อบอุ่นร่างกายอวัยวะส่วนต่างๆของร่าง
![]() | |
เครื่องวัดความดันโลหิตแบบป |
9. ผู้ช่วยผู้วิจัยสาธิตวิธีการทดสอบลุกนั่งและให้ผู้ทดสอบปฏิบัติ
10. ผู้ช่วยผู้วิจัยสาธิตวิธีการทดสอบก้มงอตัวและให้ผู้ทดสอบปฏิบัติ
11. ผู้รับการทดสอบใส่ชุดว่ายน้ำชั่งบนเครื่องชั่ง และบันทึกน้ำหนักไว้
12. วิ่ง-เดิน 1.5 ไมล์ (2400 เมตร) และบันทึกเวลา
แบบทดสอบสุขสมรรถนะ ใช้แบบทอสอบวัดสุขสมรรถนะ (Health Related Fitness Test) ของสมาคมสุขศึกษาพลศึกษานันทนาการและการเต้นรำแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบไปด้วยการวัดด้านต่างๆ 4 รายการดังนี้
1.วิ่งระยะทาง 1.5 ไมล์
2.การวัดส่วนประกอบของร่างกาย(Body composition) 2.1 วัดความหนาของไขมันใต้ผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อแขน
ท่อนบนด้านล่าง
2.2 วัดความหนาของไขมันใต้ผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อใต้
สะบักหลัง
3. ลุก-นั่ง 1 นาที (Modified sit - up)
4. นั่งงอตัวไปข้างหน้า (Sit and reach)
อภิปรายผล
จากผลการวิจัยจะเห็นว่า
ความสัมพันธ์ระหว่างเปอร์เซ็นต์ไขมัน กับสุขสมรรถนะของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงมัธยมศึกษาตอนต้น มีความสัมพันธ์กันในเชิงลบ อย่างมีนัยสำคัญที่ .01 ชี้ให้เห็นว่านักเรียนชายและหญิง ยิ่งมีเปอร์เซ็นไขมันสูง สุขสมรรถนะโดยส่วนรวม 4 รายการยิ่งลดลงต่ำ ซึ่งผลรวมของสุขสมรรถนะทั้ง 4 รายการ เป็นปัจจัยที่สำคัญของการมีสุขภาพและการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้าน ความทนทานระบบไหลเวียน จากการวิ่ง-เดิน 1.5 ไมล์ ลุก – นั่ง 1 นาที ซึ่งวัดความทนทานและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ผลรวมของไขมันใต้ผิวหนัง เป็นความเหมาะสมของไขมันในร่างกาย และการก้มงอตัวไปด้านหน้า วัดความอ่อนตัวและความยืดหยุ่นร่างกายดังนั้น เมื่อรายการใดรายการหนึ่งต่ำ หรือทุกรายการต่ำ นั่นคือสุขสมรรถนะรวมจึงถูกส่งผลออกมาในระดับต่ำ จากการที่มีเปอร์เซ็นไขมันสูงทั้งในนักเรียนชายและในนักเรียนหญิง เนื่องจากตัวแปรเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น